วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักรบที่มีคุณธรรม เก่งกล้าและมีเกียรติ ในนามอัศวิน

               
              อัศวิน (Knight) คือนักรบผู้สวมเกราะ ขี่ม้า ถือดาบ และต่อสู้โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องอาณาจักร ศาสนา กษิตริย์ หรือหญิงงามในดวงใจ อัศวินเป็นชนชั้นทางสังคมที่อยู่เหนือชาวนา แต่ต้อยต่ำกว่าขุนนาง แต่ภายหลังปี ค.ศ. 1200 ช่องว่างระหว่างชนชั้นอัศวินกับขุนนางก็สิ้นสุดลง เมื่อสิ้นสุดสมัยกลาง อัศวินและขุนนางก็เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในชนชั้นสูง

              อัศวินมีหลักการซึ่งเรียกว่า "หลักวีรคติ" กำกับความเป็นอัศวิน จึงทำให้มีความพิเศษมากกว่านักรบบนหลังม้า อัศวินที่แท้จริง คือนักรบในนามของศาสนาคริสต์ซึ่งดำเนินตามหลักคำสอนของคริสต์ศาสนาอย่างเคร่งครัด เช่น การช่วยเหลือผู้อ่อนแอ หรือปกครองศาสนา เป็นต้น อัศวินกำเนิดขึ้นในยุคมืด ของยุคกลาง ช่วงต้นศตวรรษที่ 5 ถึงศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นช่วงที่ยุโรปวุ่นวายถึงที่สุดเมื่อจักรวรรดิโรมัน ล่มสลายจากการรุกรานของชนเผ่าป่าเถื่อน ในปี ค.ศ. 476

เส้นทางสู่การเป็นอัศวิน ผู้มีเกียรติ

              การเป็นอัศวินนั้น ต้องมีเงื่อนไขของในสายเลือด เนื่องจากถ้าไม่มีบรรพบุรุษเป็นขุนนางที่ทรงศักดิ์ หรือเป็นอัศวินนั้นก็อาจไม่ถูกเลือกเป็น การเป็นอัศวินต้องเริ่มตั้งแต่ 7 ขวบ เด็กในตระกูลขุนนางที่อยากเป็นอัศวินจะถูกส่งไปเป็นเด็กรับใช้อัศวิน เรียกว่า เพจ (Page) จะเริ่มฝึกฝนจากขั้นพื้นฐาน พอฝึกจนครบอายุ 14 ปี ก็จะเลื่อนขึ้นเป็นทหารรับใช้ หรือ สไควร์ (Squire) ซึ่งต้องศึกษาเรื่องของการรบ การขี่ม้า เล่นหมากรุก และต้องคอยติดตามรับใช้ เจ้านายในสนามรบ คอยขัดเกาะ ลับดาบให้เจ้านาย

              พออายุได้ 21 ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวิน (Knight) โดยจะมีการประกอบพิธีแต่งตั้งในโบสถ์ กล่าวคำสาบาน และจะได้รับการแต่งตั้งจากผู้เป็นนาย ขุนนางที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ พระราชา หรือพระราชิณี โดยการแต่งดาบที่บ่าและหัว อันเป็นว่าได้รับการแต่งตั้งเป็น อัศวินอย่างสมบูรณ์




ศึกการประลองของอัศวิน 

              การประลองยุทธ์คือการที่อัศวินสองคนควบม้า กระชับทวนเข้าหากัน เพื่อดวลกันด้วยการแทงทวน เข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ถือว่าเป็นการซ้อมอย่างหนึ่งของอัศวิน และยังเป็นการหาเงินหรือสร้างชื่อเสียงไปด้วย เงินก็ได้จากรางวัลในการประลอง หรือเดิมพันส่วนตัว ส่วนชื่อเสียงจะทำให้ได้ที่ดินทำให้ยศสูงขึ้น แต่การประลองยุทธ์อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ เช่นตกม้า หรือทวนทะลุเกราะ




หลักวีรคติที่อัศวินยึดมั่น

              หลักวีรคติ คือหลักการปฎิบัติตัวของอัศวินที่เกิดขึ้นเพื่อควบคุมพฤติกรรมของนักรบเพื่อไม่ให้ปฎิบัติตนออกนอกลู่นอกทางของอาณาจักรและศาสนจักร ต้องปฎิบัติตามหลักคือ จะต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ศาสนจักรสอนและปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ต้องปกป้องศาสนจักร ต้องเอาใจใส่ผู้อ่อนแอและปกป้องพวกพ้อง ต้องรักแผ่นดินเกิดของตน ต้องทำสงครามกับพวกนอกศาสนา  จะต้องรักษาคำพูดของตน จะต้องเป็นผู้ผดุงความถูกต้องและความดีงาม


หรูหรา ฟูฟ่า และฟุ่ยเฟือย ชีวิตอัศวินในวันรุ่งโรจน์


"ภาพการสู้รบของอัศวิน"

              ในคริสต์ศตวรรษที่ 11-13 หรือยุคที่เรียกว่า "ศักดินาสวามิภักดิ์" ซึ่งเป็นยุคทองของอัศวินโดยแท้จริง เพราะยุโรปกลายเป็นแคล้นเล็กแคล้นน้อย ภายใต้ระบบการปกครองของขุนนางต่าง ๆ ทำให้เกิดสงครามบ่อยขึ้น กองกำลังอัศวินจึงมีความจำเป็น เพื่อใช้คุ้มครองผู้คนพื้นดินต่าง ๆ บทบาทของอัศวินมีมากจนก่อให้เกิดวรรณกรรมต่าง ๆ มากมายเช่น "บทเพลงแห่งโรลองด์" และเนื่องจากการจะได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวิน จะต้องมีบิดา บรรพบุรุษเป็นขุนนางที่ทรงศักดิ์ หรือเป็นอัศวินเท่านั้น ทำให้อัศวินในสังคมยุคนั้นมีน้อย เพราะต้องสืบสายเลือดกันอยู่ในชนชั้นสูงของตนเอง และเพราะเป็นคนกลุ่มน้อยทำให้ครอบครองที่ดินมากมาย มีทรัพย์สินมั่งคั่ง เป็นผลให้อัศวินส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย มีชีวิตที่น่าตื่นเต้น สนุกสนาน ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการรบ ล่าสัตว์ เลี้ยงฉลอง หรือร่วมงานรื่นเรงต่าง ๆ

ยุคเสื่อมถอยของอัศวิน

              เมื่อมีการฝึกฝนพลราบถือทวนยาวและพลธนูมาใช้ในสงคราม และอัศวินเริ่มหมดความสำคัญเมื่อมีปืนไฟเข้ามาใช้ในการรบ เพราะปืนไฟใช้งานง่าย ฝึกใช้ไม่ยาก ขณะที่การฝึกอัศวินนั้นใช้เวลานาน และต้องใช้ต้นทุนทางเวลาและทรัพย์สินอีกมาก ดั้งนั้น หลังจากมีการใช้ปืนไฟ ยุคของอัศวินในสงครามก็จบลง แต่ในปัจจุปัน อัศวินยังเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ บ่งบอกคุณงามความดีเพื่อชาติ อย่างในอังกฤษก่อตั้งยศเซอร์ โดยไม่จำเป็นต้องสู่รบอีกต่อไป เช่น เซอร์ไอแซก นิวตัน ผู้คิดค้นทฤษฎีแรงโน้มถ่วง เซอร์ เอลตัน จอห์น และ เซอร์พอล แมคคาร์ทนีย์ นักดนตรีระดับโลก เซอร์ แมตต์ บัสบี และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ไม่มีความคิดเห็น: