วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภาพมุมกว้างของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมครั้งสำคัญของจีน

ประชาชนจีนกว่าหลายพันคนรวมตัวชุมชนหน้าจัตุรัสในเมืองฮาร์บิน เพื่อสนับสนุนแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตุง เมื่อวันที่ 13 กันยายน ปี 1966



บทความจะนำเสนอพร้อมภาพถ่ายที่บอกเล่าเรื่องราวของการปฏิวัติครั้งสำคัญในจีน ช่วงปลายยุค 60's ภาพถ่ายเหล่านี้จะบอกเล่าเรื่องราวครั้งสำคัญ ภาพถ่ายเหล่านี้จะเป็นพยานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทศวรรษแห่งความวุ่นวายและการเปลี่ยนครั้งใหญ่นี้ เมื่อการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเริ่มต้นทางการของเหมา เจ๋อตงประกาศ ให้ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่ และได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมากกับประชาชนชาวจีน ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว และยุคของการเปลี่ยนแปลงจากระบบศักดินาที่ล้าหลังสู่ระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ก็เริ่มต้นขึ้น

นานกว่าหลายปีที่จีนทุกปกครองโดยราชวงศ์ที่ทุจริตและอ่อนแอ ประเทศทุกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ แต่เมื่อราชวงศ์ถูกล้มล้าง โดยขบวนการสาธารณรัฐใหม่ ซึ่งนำโดยพรรคก๊กมินตั๋งหรือจีนธนชาติ จากประเทศที่มีการปกครองแบบศักดินา คนรวยจำนวนน้อยอยู่อย่างสุขสบายแต่คนอีกหลายล้านของประเทศแทบเอาชีวิตไม่รอด ในชนบทเจ้าของที่ดินระบอบศักดินาจะทำตัวเช่นจักรพรรดิ รีดไถ่ภาษีคนทำงานอย่างทารุน มีกบฏชาวนาเกิดขึ้นบ่อยครั้งและก็มักถูกปราบปรามอย่างทารุณ ชีวิตทั้งตากตำและโหดร้าย เหมาเล็งเห็นการพัฒนายังกระจุกอยู่แต่ในตัวเมือง ไม่ได้กระจายออกสู่ชนบทอย่างแท้จริง จึงทำให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างเมืองและชนบทขึ้น ประกอบกับกลไกการทำงานของรัฐซึ่งมีลักษณะเหมือนระบบขุนนาง และกลไกของพรรคที่เป็นแบบรวมศูนย์มากเกินไป



เหมาได้เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของประเทศ ระหว่างที่เขาเข้าฝึกอบรมวิชาชีพครูอยู่ในวิทยาลัย เขาได้แสดงท่าทีการสนับสนุนการปฎิวัติด้วยการตัดหางเปีย ซึ่งไว้กันตามธรรมเนียมเก่าของจีนออก ในช่วงขณะที่เขาได้ทำงานเป็นครูฝึกสอนนี้เอง เขาก็ได้คลุกคลีกับเหล่านักศึกษาและได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย เขารู้สึกมีความสนใจอย่างมากทำให้เขาเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของคนรากหญ้าที่ถูกเหยียบย่ำ เหมาเริ่มชูประเด็นการพัฒนาในชนบทโดยรณรงค์ให้มีการศึกษา ต่อต้านสมาชิกที่ฝักใฝ่ทุนนิยมและจัดตั้งระบบคอมมูน ในแนวคิดที่ว่าทรัพย์สินทุกอย่างต้องเป็นของรัฐตามอุดมการณ์ของเขา เหมาได้แรงสนับสนุนอย่างมากจากชาวนาที่ยากจนและคนชนชั้นกลาง เหมาได้เรียกร้องจากชาวนามาเข้าคอมมูนเพื่อหาทางเพิ่มผลผลิตในภาคการเกษตร เหมาได้กระจายความคิดระบบคอมมูนไปยังชนบทต่าง ๆ


ไม่นานหลังจากนั้นเขาได้สร้างกองทัพขึ้น และได้พเนจรไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อกระจายแนวคิดของเขา แนวคิดคอมมิวนิสต์เป็นภัยคุกคามที่รัฐบาลไม่อาจเพิกเฉยไว้ได้ มีการปะทะกันในที่สุดและฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็ไม่สามารถต่อกรได้แม้แต่น้อย การต่อสู้ของทางการกับฝ่ายคอมมิวนิสต์เริ่มรุนแรงขึ้น จนฝ่ายคอมมิวนิสต์ต้องหลบหนี 

ต่อมาศัตรูเก่าของจีนคือญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาและทารุนชาวจีนอย่างโหดร้าย เหมายื่นข้อเสนอขับไล่ชาวต่างชาติกับทางการและให้พวกเขาหยุดยิงฝ่ายคอมมิวนิสต์ของตน นับเป็นข้อตกลงที่สำคัญและฉลาดมาก ช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สอง จีนและญี่ปุ่นถูกดึงให้ร่วมรบไปกับสงคราม อเมริกาส่งอาวุธสนับสนุนจีน และฝ่ายคอมมิวนิสต์ของเหมาก็เข้มแข็งขึ้นได้มียุธโทปกรณ์เพียบพร้อมกว่าที่เคย ค.ศ. 1949 หลังจากต่อสู้กับกองทัพของทางการอย่างต่อเนื่องกองโจรคอมมิวนิสต์ของเหมา ก็ขยายครอบคลุมไปทั่วประเทศและเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงปักกิ่งในที่สุด การปฏิวัติของชาวนาได้รับชัยชนะในที่สุด วันนี้ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เหมาเจ๋อตุง ได้ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอันสิ้นสุด 30 ปีแห่งสงครามกลางเมืองโดยเหมาได้ประกาศว่า “ณ วันนี้ สาธารณะรัฐประชาชนจีน ศูนย์กลางอำนาจของประชาชนได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว”

เจ้าของที่ดินศักดินา ถูกประจารต่อหน้าสาธารณชน


เหมารักษาสัญญาที่ให้ไว้กับชาวนาด้วยการปฎิรูปที่ดิน ด้วยการยึดที่ดินจากเจ้าของเดิมศึกดินาและจัดแบ่งให้กับผู้ทำงานในผืนดินแห่งนั้น

มีการจัดตั้งกลุ่มยุวชนแดงหรือหงเว้ยปิง กลุ่มประชาชนที่มีความเชื่อลัทธิที่เกี่ยวกับเหมา และเป็นพวกหัวรุนแรงจะทำร้ายคนที่มีความ เห็นแตกต่าง เหมาลงโทษ ยุวชนแดงด้วยการให้ทำไร่ ทำสวน เพื่อให้รู้ถึงความยากลำบาก